การโอนลอยรถยนต์
การโอนรถโดยทั่วไปหลังจากการซื้อขายเพื่อเปลี่ยนเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ รถมอเตอร์ไซต์ รถบรรทุก การโอนกรรมสิทธิ์ซื้อขายจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อผู้ซื้อหรือผู้ขายไปจดทะเบียนผู้ครอบครองใหม่ที่สำนักงานขนส่ง ดังนั้น การโอนลอย เกิดจากกรณีที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สะดวกหรือไม่สามารถไปทำเรื่องต่อหน้านายทะเบียนที่ขนส่งได้ ดังนั้น เมื่อทำการตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย ผู้ขายรถยนต์จะเซ็นเอกสารสัญญาต่างๆ และส่งมอบรถกับเอกสารให้ผู้ซื้อไปดำเนินการโอนรถเองที่สำนักงานขนส่ง ซึ่งการโอนลอยนั้นช่วยทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายประหยัดเวลาได้มาก แต่ต้องรอบคอบด้วยเช่นกัน
เอกสารสำหรับโอนลอยรถยนต์ มีดังนี้
- เล่มทะเบียนรถตัวจริง หรือใบคู่มือจดทะเบียนรถตัวจริง
- สำเนาบัตรประชาชนเจ้าของรถ และ ผู้รับโอน (ถ้าหากเป็นนิติบุคคลให้มีหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล พร้อมสำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ)
- สำเนาป้ายภาษีรถ หรือสำเนาใบเสร็จจากกรมขนส่งของรถ
- แบบฟอร์มคำขอโอนและรับโอนจากกรมการขนส่งทางบก
- หลักฐานการซื้อขายรถ เช่น หนังสือสัญญาซื้อขาย ใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษี
- หนังสือมอบอำนาจพร้อมสำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบ กรณีผู้โอนหรือผู้รับโอน ไม่ได้มาดำเนินการด้วยตัวเอง
เอกสารการโอนลอย ดาวน์โหลดที่นี่
การโอนรถ กี่วันถึงได้เล่ม?
หากเตรียมเอกสารทุกอย่างไปครบถ้วน การโอนรถที่สำนักงานขนส่ง ใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 1 วัน ก็ได้เล่มทะเบียนเรียบร้อย โดยทั่วไปการโอนนานสุดจะได้เล่มไม่เกิน 15 วันทำการ
การโอนลอยมีอายุกี่วัน
คำตอบคือ
- กรณีถ้าระบุวันที่ลงไปในเอกสารการโอนลอยแล้ว ต้องมาทำการโอนที่ขนส่งภายใน 15 วัน หากเกินกำหนดจะเสียค่าปรับล่าช้าเพิ่ม 200 บาท
- กรณีถ้าไม่ได้ระบุวันที่ลงไปในเอกสารให้ชัดเจน ก็จะไม่มีวันหมดอายุ สามารถไปโอนรถได้ในวันและเวลาที่ผู้ซื้อรถสะดวก ยกเว้นในกรณีบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถหมดอายุเท่านั้นจึงจะไม่สามารถโอนรถได้
การโอนรถต้องแจ้งต่อนายทะเบียนภายในกี่วัน
การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ต้องยื่นแจ้งเรื่องต่อนายทะเบียนที่สำนักงานขนส่งภายใน 15 วัน ที่สำนักงานขนส่งนับแต่วันโอน หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดจะต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ค่าใช้จ่ายในการโอนรถ
การโอนรถที่ขนส่งมีค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียม ดังนี้
- ค่าธรรมเนียมในการโอนรถยนต์ 100 บาท
- ค่าคำขอในการโอนรถยนต์ 5 บาท
- ค่าธรรมเนียมตรวจสภาพรถยนต์ 50 บาท
- ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อการประเมินราคารถทุก 100,000 บาท
- ค่าเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ (ถ้าอยากเปลี่ยน) 200 บาท
- ค่าเปลี่ยนทะเบียนเล่มรถยนต์ (ถ้าชำรุดเสียหาย) 100 บาท
ข้อควรรู้ในการโอนรถ
- แบบคำขอโอนและรับโอน ถ้าลงวันที่แล้ว หากท่านไม่มาดำเนินการโอนรถภายใน 15 วันทำการ จะเสียค่าปรับล่าช้าเพิ่ม 200 บาท
- ควรเซ็นเอกสารไว้ 2 ชุด เผื่อกรณีมีปัญหา หรือ กรอกผิด จะได้มีสำรองไว้
- สำเนาบัตรประชาชนผู้โอน และรับโอน ต้องยังไม่หมดอายุ
- หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือ บริษัท ต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน
ข้อควรระวังหากผู้ซื้อยังไม่ทำเรื่องโอนรถ
เมื่อผู้ขายทำการโอนลอยไปแล้ว แต่ผู้ซื้อยังไม่ได้ไปทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานขนส่งให้เรียบร้อย เมื่อรถที่ขายไปเกิดปัญหาหรือนำไปกระทำความผิด เช่น ถูกใบสั่งจราจร / มีคดีเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนน / นำไปก่อเหตุอาชญากรรม / นำไปขายต่อแบบผิดกฎหมาย เป็นต้น เจ้าของรถเดิมที่มีชื่อตามเล่มทะเบียนรถ อาจจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังถือว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวอยู่
ดังนั้น เอกสารการซื้อขายควรมี 2 ฉบับเก็บไว้ทั้งทางผู้ซื้อและผู้ขาย โดยควรขอสำเนาบัตรประชาชนของผู้ซื้อเอาไว้ด้วย เพราะเมื่อเกิดคดีความก่อนที่จะมีการโอนอย่างถูกต้อง เจ้าของรถคนเดิมสามารถนำเอกสารเหล่านี้มายืนยันได้ว่ามีการขายไปแล้ว