ผู้ที่กำลังมองหาเงินด่วนเพื่อนำไปใช้จ่ายต่อยอดธุรกิจหรือทำทุนค้าขายต่างๆ การรีไฟแนนซ์รถผ่อนอยู่หรือรถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก เนื่องจากสามารถเปลี่ยนรถยนต์คันโปรดให้กลายเป็นเงินก้อนโต โดยที่รถยังอยู่ เรายังสามารถใช้รถคันเดิมต่อไปได้ตามปกติ เราลองมาดูขั้นตอนและเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์รถยนต์กันเลย
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คืออะไร ?
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือ การนำรถยนต์ที่ยังไม่ปลอดภาระ (รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด) มาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อขอสินเชื่อกับสถาบันการเงิน เรียกได้ว่า กู้เงินก้อนใหม่มาปิดหนี้ก้อนเดิมและนำเงินส่วนต่างที่เหลือมาใช้เป็นทุนหมุนเวียนธุรกิจให้ชีวิตได้ไปต่อ โดยที่เรายังมีรถยนต์คู่ใจให้ได้ขับขี่ในชีวิตประจำวันเหมือนเดิม
รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมด ขอรีไฟแนนซ์ได้ไหม?
คำตอบคือ รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่ก็สามารถขอกู้ได้ การรีไฟแนนซ์รถยนต์ที่ยังผ่อนไม่หมดสามารถทำได้ โดยส่วนใหญ่สถาบันการเงินจะรับรถยนต์ที่ผ่อนไปแล้วครึ่งหนึ่งของสัญญา เช่น รถยนต์ต้องผ่อนค่างวดทั้งหมด 60 งวด คุณได้ผ่อนค่างวดไปแล้ว 30 งวด แบบนี้สามารถนำรถยนต์มาขอรีไฟแนนซ์ได้เลย
การรีไฟแนนซ์ สามารถทำได้ทั้งยื่นขอรีไฟแนนซ์กับสถาบันการเงินเดิมที่เจ้าของรถเป็นลูกหนี้อยู่หรือจะเปลี่ยนเป็นสถาบันการเงินแห่งใหม่เลยก็ทำได้ และการรีไฟแนนซ์ก็มีให้เลือกทั้งแบบที่ต้องโอนเล่มทะเบียนและไม่ต้องโอนเล่มทะเบียน เราสามารถเลือกได้
ผ่อนรถมาแค่ 1 ปี หรือ 2 ปี ขอรีไฟแนนซ์รถได้ไหม?
ถ้าถามว่า รถยนต์ที่ผ่อนมาได้แค่ 1 ปี หรือ 2 ปี สามารถยื่นขอรีไฟแนนซ์ได้หรือไม่ คำตอบคือ สามารถทำได้ ถ้าจำนวนเงินที่ผ่อนมาแล้วมากกว่า 50% ของยอดหนี้ที่เหลือ หรืออีกกรณี คือ ราคาประเมินรถยนต์มีมูลค่าสูงกว่ายอดหนี้ที่เหลือ ยกตัวอย่างเช่น ผ่อนรถมาได้ 1 ปี เหลือยอดหนี้ 250,000 บาท (จากยอดหนี้ทั้งหมด 500,000 บาท) และรถยนต์มีราคาประเมินรถอยู่ที่ 350,000 บาท แบบนี้สามารถขอรีไฟแนนซ์ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับเงือนไขของแต่ละสถาบันการเงินอีกที
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมด
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ หากวางแผนดีๆ แล้ว
- สามารถช่วยลดภาระทางการเงินได้
- ช่วยให้ผ่อนต่องวดน้อยลง ผ่อนสบายขึ้น
- ช่วยขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น
- ช่วยปิดหนี้เก่าและยังมีเงินส่วนต่างให้นำไปใช้จ่ายทำทุนหรือใช้จ่ายในเวลาฉุกเฉิน
- สามารถใช้รถยนต์ได้เหมือนเดิม
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ ที่ต้องพิจารณา
- ขั้นแรกต้องดูความคุ้มค่า เพราะการรีไฟแนนซ์เป็นเปลี่ยนหนี้ก้อนเดิมเป็นหนี้ก้อนใหม่ ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ควรตรวจสอบราคากลางรถยนต์ อัตราดอกเบี้ยรวมที่จะต้องจ่ายตลอดอายุสัญญา ควรมองหาที่ที่ดอกเบี้ยต่ำๆ และค่างวดควรผ่อนสบายกว่าเดิม
- วงเงินที่ได้ต้องครอบคลุมเงินก้อนที่ต้องการใช้จ่าย (ครอบคลุมการปิดยอดหนี้เก่า และมีเงินส่วนต่างเอาไปใช้จ่าย)
- ตรวจสอบเงื่อนไขและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เนื่องจากเจ้าของรถต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าตรวจสภาพรถยนต์ ค่าโอนเล่มทะเบียนรถยนต์ ค่าอากรแสตมป์ ค่าทำประกัน เป็นต้น ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดี
- เตรียมเอกสารบัตรประชาชน เล่มทะเบียนรถยนต์ และเอกสารทางการเงินให้พร้อม เพื่อนำไปยื่นต่อสถาบันการเงิน
- รออนุมัติและทำสัญญาต่อไป
สรุป
การรีไฟแนนซ์ เป็นการขอสินเชื่อโดยใช้รถยนต์ที่ยังผ่อนอยู่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งธนาคารจะโปะปิดยอดหนี้เดิมให้ แล้วปรับการผ่อนชำระค่างวดใหม่ และหากมีส่วนต่าง เราก็จะได้รับเงินส่วนต่างมาใช้จ่าย เรียกได้ว่า ช่วยแบ่งเบาสภาพคล่องให้กับคนที่กำลังมีปัญหาเงินช็อตได้ โดยรถยังมีขับตามเดิม ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถบรรทุกสิบล้อ รถที่ติดไฟแนนซ์ หรือยังผ่อนรถไม่หมด ก็สามารถขอสินเชื่อได้หากเป็นไปตามเงือนไขที่สภาบันการเงินกำหนด